Health

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ "ถุงยางอนามัย" ไม่ช่วย เพศสัมพันธ์แบบไหนที่ติดเชื้อ/ติดโรคได้มากที่สุด ในสมัยที่เราใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย การรับสื่อสารทางเพศสัมพันธ์ก็เป็นสิ่งที่ผู้คนสนใจอย่างมาก แต่เมื่อพูดถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ถุงยางอนามัยเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่ถุงยางอนามัยจะช่วยให้เราปลอดภัยได้อย่างแท้จริงหรือไม่? เรามาค้นคว้าและทำความเข้าใจเรื่องนี้กันเถอะ! ประโยชน์ของการใช้ถุงยางอนามัยในเพศสัมพันธ์ การใช้ถุงยางอนามัยในเพศสัมพันธ์มีประโยชน์มากมายที่ไม่ควรถูกละเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันการติดเชื้อและโรคทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถระบาดได้อย่างแพร่หลาย นี่คือบางประโยชน์ที่สำคัญของการใช้ถุงยางอนามัยในเพศสัมพันธ์ 1. ป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ การใช้ถุงยางอนามัยในเพศสัมพันธ์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ถุงยางอนามัยช่วยป้องกันการสัมผัสระหว่างเหล่านั้น ทำให้ลดโอกาสในการแพร่ระบาดของโรคติดต่อได้มากขึ้น 2. ส่งเสริมความปลอดภัยในเพศสัมพันธ์ การใช้ถุงยางอนามัยช่วยเพิ่มความปลอดภัยในเพศสัมพันธ์ เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อและโรคต่างๆที่อาจถูกส่งต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์ การใช้ถุงยางอนามัยทำให้คุณและคู่ที่คุณมีเพศสัมพันธ์อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น 3. ลดความกังวลและเพิ่มความมั่นใจ การใช้ถุงยางอนามัยในเพศสัมพันธ์ช่วยลดความกังวลและเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณและคู่ของคุณ คุณสามารถเพลิดเพลินได้อย่างเต็มที่ในเพศสัมพันธ์ โประโยชน์เหล่านี้ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณกำลังปฏิบัติตนในเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบต่อสุขภาพของตนเองและคู่ของคุณ คำแนะนำในการใช้ถุงยางอนามัยให้ถูกวิธี เพื่อให้ถุงยางอนามัยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือคำแนะนำในการใช้งานที่ถูกวิธี 1. เลือกขนาดที่เหมาะสม เลือกขนาดของถุงยางอนามัยที่เหมาะสมกับขนาดอวัยวะเพศของคุณ การเลือกขนาดที่ถูกต้องจะช่วยให้ถุงยางอนามัยพอดีกับรูปร่างและสามารถประสบความสนุกได้อย่างเต็มที่ 2. ใช้ให้ถูกต้อง ใช้ถุงยางอนามัยให้ถูกต้องโดยทำตามคำแนะนำจากผู้ผลิต...

11 สัญญาณอันตราย เสี่ยง "ภาวะซึมเศร้าจากการทำงาน" เรื่องงานที่ทำทำให้คุณรู้สึกวิตกกังวลและเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า สภาวะซึมเศร้าในที่ทำงานเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากมีผลกระทบต่อสุขภาพและความผิดปกติในการทำงานของคุณ อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่คุณควรใส่ใจและจัดการให้เหมาะสม 1. รู้สึกวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อต้องจัดการกับงาน การมีความกังวลในการทำงานสามารถทำให้คุณรู้สึกตึงเครียดและไม่มั่นคงในการตัดสินใจ ความกังวลเชิงบวกสามารถใช้เป็นแรงผลักดันในการทำงาน แต่หากกังวลเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีความรุนแรง อาจทำให้คุณเสียสมาธิและมีผลกระทบต่อความประสบความสำเร็จในงาน 2. เบื่องาน ไม่มีความพอใจในงานที่ทำ การรู้สึกเบื่องานและไม่มีความพอใจในงานที่ทำเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าคุณอาจไม่พบความสุขในการทำงานปัจจุบัน การทำงานที่ไม่ถูกใจอาจทำให้คุณรู้สึกเหงื่อยหรือไม่มีแรงจูงใจในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ 3. รู้สึกเศร้าหรือไม่มีเวลาจะทำอะไร (ติดต่อกันเป็นเวลานาน) การทำงานที่ต้องทำงานหนักหรือมีกำหนดเวลาที่แน่นอนอาจส่งผลให้คุณรู้สึกเศร้าหรือไม่มีเวลาเพียงพอในการทำสิ่งที่คุณต้องการ อาจทำให้คุณมีความผิดหวังและรู้สึกตกใจ 4. รู้สึกไม่สนใจงานเท่าที่เคยเป็น ความไม่สนใจในงานที่เคยทำอาจเกิดจากความรู้สึกว่างานนั้นไม่ได้สอดคล้องกับความสนใจหรือความสามารถของคุณ การทำงานในสิ่งที่ไม่ถูกใจอาจทำให้คุณรู้สึกเบื่อและไม่พึงพอใจ 5. รู้สึกสิ้นหวัง การทำงานที่ไม่มีความสำเร็จหรือผลที่ต้องการอาจทำให้คุณรู้สึกสิ้นหวัง ความผิดหวังนี้อาจก่อให้เกิดความไม่มั่นคงในการทำงานและความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง 6. ไม่มีสมาธิกับงาน ใส่ใจกับงานน้อยลง การทำงานโดยไม่มีสมาธิอาจทำให้คุณทำงานในลักษณะที่ไม่มีคุณภาพและไม่มีการใส่ใจอย่างเต็มที่ การสูญเสียสมาธิอาจทำให้คุณทำงานช้าลงและมีความผิดพลาดมากกว่าเมื่อเป็นปกติ 7. เกิดข้อผิดพลาดเยอะขึ้นในงาน ความไม่สม่ำเสมอในการให้ความสนใจและความไม่มั่นคงในการทำงานอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดมากขึ้น...

3 สัญญาณอันตราย ภาวะ "เกล็ดเลือดต่ำ" ภาวะ "เกล็ดเลือดต่ำ" เป็นภาวะที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการเลือดออกง่ายในร่างกาย ซึ่งสามารถพบได้ตามเยื่อบุตามหลายๆ ส่วนของร่างกาย เช่น เลือดออกตามไรฟันและเลือดกำเดา และในบางครั้ง ภาวะเกล็ดเลือดต่ำอาจทำให้เกิดการออกเลือดที่ยากกว่าปกติ สัญญาณอันตรายที่ควรระมัดระวัง 1. เลือดออกง่าย ภาวะเกล็ดเลือดต่ำทำให้ร่างกายมีความเสี่ยงต่อการเลือดออกง่าย ซึ่งอาจเกิดจากการบาดเจ็บเล็กน้อยหรือการกระทำที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เมื่อเกิดเลือดออกง่าย ควรปฏิบัติดังนี้ ระวังการใช้สิ่งที่อาจทำให้เกิดบาดเจ็บหรือการกระทำต่อร่างกาย ใช้เทคนิคการหดตัวหรือการบีบเพื่อหยุดเลือดออกในกรณีที่เลือดออกไม่หยุด 2. จุดจ้ำเลือดใต้ชั้นผิวหนังหรือรอยฟกช้ำตื้นๆ โดยไม่มีการกระแทก การพบจุดจ้ำเลือดใต้ชั้นผิวหนังหรือรอยฟกช้ำตื้นๆ อาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงภาวะเกล็ดเลือดต่ำ แม้ไม่มีการกระแทกหรือบาดเจ็บที่เห็นได้เป็นชัด สำหรับการจัดการกับจุดจ้ำเลือดใต้ชั้นผิวหนังหรือรอยฟกช้ำ ควรทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ...

10 ประโยชน์ "เห็ดเข็มทอง" ลดน้ำหนัก-เบาหวาน 1. ช่วยดักจับไขมันส่วนเกินในเลือด จึงช่วยลดน้ำหนักได้ และยังป้องกันโรคอ้วนได้อีกด้วย เห็ดเข็มทองเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อการลดน้ำหนักอย่างมหาศาล เนื่องจากมีคุณสมบัติในการดักจับไขมันส่วนเกินที่อยู่ในเลือด การบริโภคเห็ดเข็มทองสามารถช่วยลดน้ำหนักและป้องกันโรคอ้วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น การบริโภคเห็ดเข็มทองช่วยเสริมสร้างระบบขับถ่ายที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีและร่างกายปราศจากสิ่งสกปรก 3. บำรุงผิวพรรณให้มีน้ำมีนวลขึ้น เห็ดเข็มทองมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิวพรรณอย่างมีประสิทธิภาพ การบริโภคเห็ดเข็มทองอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวพรรณดูมีน้ำมีนวลและกระจ่างใสขึ้น 4. ช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย เห็ดเข็มทองมีสารสกัดที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย การบริโภคเห็ดเข็มทองสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่เกี่ยวกับระบบหัวใจได้ 5. รักษาโรคตับ กระเพาะอาหาร และลำไส้เรื้อรัง เห็ดเข็มทองมีส่วนช่วยในการรักษาโรคตับ กระเพาะอาหาร และลำไส้เรื้อรัง คุณสามารถรับประโยชน์ในการรักษาโรคเหล่านี้ได้โดยการบริโภคเห็ดเข็มทองเป็นอาหารประจำ 6. มีสารเฟรมมูลิน (Flammulin) ที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง สารเฟรมมูลินที่อยู่ในเห็ดเข็มทองสามารถมีบทบาทในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้...

5 อาหารคอเลสเตอรอลสูง ลดด่วนก่อนเสี่ยงไขมันอุดตันเส้นเลือด ลดเนื้อแดง เนื้อติดมัน การลดการบริโภคเนื้อแดงและเนื้อติดมันเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายของเรา นอกจากนี้เนื้อแดงและเนื้อติดมันยังเป็นแหล่งของไขมันอิ่มตัวที่ไม่ดีต่อสุขภาพของหัวใจและระบบหลอดเลือด เพราะฉะนั้นการลดการบริโภคเนื้อแดงและเนื้อติดมันจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ ลดอาหารสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูปมักมีประสิทธิภาพสูงในการเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย เนื่องจากมักมีการใช้น้ำมันและส่วนผสมที่มีไขมันอิ่มตัวสูง อย่างไรก็ตามการลดการบริโภคอาหารสำเร็จรูปเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาระดับคอเลสเตอรอลให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ลดเครื่องในสัตว์ เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ ไข่ เป็ด และอื่นๆ มีคอเลสเตอรอลสูง การบริโภคเครื่องในสัตว์ในปริมาณที่มากอาจทำให้คอเลสเตอรอลในร่างกายสูงขึ้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องลดการบริโภคเครื่องในสัตว์ในอาหารประจำวัน ลดอาหารผัดๆ ทอดๆ อาหารที่ผ่านกรรมวิธีการผัดหรือทอดมักมีการใช้น้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวสูง การบริโภคอาหารประเภทนี้อย่างสม่ำเสมออาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายเพิ่มขึ้น ดังนั้นเพื่อควบคุมคอเลสเตอรอลให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ควรลดการบริโภคอาหารผัดหรือทอด ลดแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากสามารถเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของหัวใจและระบบหลอดเลือด ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด ควรลดการดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง โดยสรุป การลดการบริโภคเนื้อแดงและเนื้อติดมัน...

อาหารที่ควรเลี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงของ "ภูมิคุ้มกันโรค" 1. น้ำตาล (ที่เติมเพิ่มเข้าไปเอง) น้ำตาลเป็นสารอาหารที่มีปริมาณพลังงานสูงและสามารถเพิ่มน้ำหนักได้ การบริโภคน้ำตาลเติมเพิ่มเข้าไปเองอาจทำให้เกิดโรคอ้วน ซึ่งส่งผลทำให้ภูมิคุ้มกันโรคลดลง ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาลเพิ่มเข้าไปในอาหารหรือเครื่องดื่มอย่างมากเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า 2. เกลือ การบริโภคเกลือในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายต่อระบบหัวใจและเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง การรับปริมาณเกลือที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดีของร่างกาย ดังนั้นควรลดการบริโภคเกลือในอาหารเพื่อลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ 3. อาหารทอด อาหารทอดมักมีปริมาณไขมันสูงและมีพลังงานสูง การบริโภคอาหารทอดอย่างบ่อยควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความอ้วน ควรเลือกวิธีการปรุงอาหารที่ไม่ใช้น้ำมันมาก เช่น ตุ๋น นึ่ง หรืออบเนื่องจากการปรุงอาหารดังกล่าวจะมีผลดีต่อสุขภาพมากกว่า 4. เครื่องดื่มคาเฟอีนสูง เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง เช่น กาแฟ ชา และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของเครื่องเสริมสติปัญญา...

5 ผักผลไม้คาร์โบไฮเดรตสูง ทานเยอะๆ ก็อ้วนได้ ผักผลไม้คาร์โบไฮเดรตสูงที่คุณควรรู้จัก เมื่อพูดถึงการรักษาสุขภาพที่ดีและการควบคุมน้ำหนักที่เหมาะสม การบริโภคผักผลไม้เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะผักผลไม้คาร์โบไฮเดรตสูงมีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราอย่างมาก วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 ชนิดของผักผลไม้คาร์โบไฮเดรตสูงที่คุณควรต้องทานเยอะๆ อย่างไร้กังวลเกี่ยวกับการอ้วน ดังนี้ 1. มันฝรั่ง มันฝรั่งเป็นผักผลไม้คาร์โบไฮเดรตสูงที่มีรสชาติอร่อยและเส้นใยอาหารที่สูง มันฝรั่งเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง รวมถึงมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารและระบบทางเดินอาหารด้วย 2. ข้าวโพด ข้าวโพดเป็นผักผลไม้คาร์โบไฮเดรตสูงที่ให้พลังงานมากและเป็นแหล่งของไฟเบอร์อาหาร การบริโภคข้าวโพดช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงของโรคทางเดินอาหาร นอกจากนี้ ข้าวโพดยังมีวิตามินเอที่มีประโยชน์ต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย 3. เผือก เผือกเป็นผักผลไม้คาร์โบไฮเดรตสูงที่มีรสชาติหวานอ่อนและเนื้อนุ่ม การบริโภคเผือกช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน และช่วยให้ระบบทางเดินปัสสาวะทำงานได้อย่างปกติ...

7 โรคที่ "น้ำเปล่า" รักษาได้จริง 1. ท้องผูก ท้องผูกเป็นปัญหาที่คนหลายคนพบเจอในชีวิตประจำวัน ซึ่งน้ำเปล่าสามารถช่วยรักษาอาการท้องผูกได้โดยเร็วและปลอดภัย การดื่มน้ำเปล่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการย่อยอาหารและกระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้เป็นปกติ นอกจากนี้ น้ำเปล่ายังช่วยล้างสารพิษในระบบย่อยอาหารและเพิ่มความสะอาดให้กับลำไส้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. โรคริดสีดวงทวาร โรคริดสีดวงทวารเป็นอาการที่ทำให้ผู้ป่วยรับรู้ถึงความไม่สบายในบริเวณรอบปุ่มสะดือ การดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำจะช่วยละลายและบรรเทาอาการโรคริดสีดวงทวาร น้ำเปล่าช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปด้วยความสะดวกและลดอาการอักเสบที่ปรากฏอยู่ในบริเวณนั้น 3. ปวดศีรษะ/ไมเกรน ไมเกรนและปวดศีรษะเป็นอาการที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย น้ำเปล่าเป็นทางเลือกที่ดีในการบรรเทาอาการ การดื่มน้ำเปล่าช่วยในการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและน้ำเลือดส่วนตัวที่มีประสิทธิภาพ น้ำเปล่ายังช่วยในการควบคุมและลดการอักเสบในสมองซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดศีรษะและไมเกรน 4. ความดันโลหิตสูง การควบคุมความดันโลหิตสูงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพทั่วไป น้ำเปล่าเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการลดความดันโลหิตสูง การดื่มน้ำเปล่าเพิ่มปริมาณของน้ำในร่างกายและช่วยล้างเกลือในเลือด น้ำเปล่ายังช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือด ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความดันโลหิต 5. โรคอ้วน โรคอ้วนเป็นปัญหาที่พบมากในปัจจุบัน การดื่มน้ำเปล่าเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมน้ำหนักตัว น้ำเปล่าไม่มีแคลอรี่และไม่มีส่วนผสมที่เพิ่มความอ้วน...

5 พฤติกรรมเสี่ยงโรคหัวใจ 1. ทานอาหารไขมันสูง การทานอาหารที่มีปริมาณไขมันสูงอย่างต่อเนื่องอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ อาหารที่มีไขมันสูงอย่างเช่น เนื้อสัตว์ที่มีมันสูง อาหารที่ทำจากน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์ อาหารจากของหมักหรืออาหารที่ทอดน้ำมันมาก เป็นต้น การบริโภคอาหารเชิงสุขภาพที่มีปริมาณไขมันสูงส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบต่อระบบหัวใจและสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้ 2. สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ บุหรี่ประกอบไปด้วยสารเคมีหลายชนิดที่สามารถทำให้เกิดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เช่น การเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ การเกิดโรคหัวใจขาดเลือด หรืออื่น ๆ นอกจากนี้ ควันจากบุหรี่ยังสามารถเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังทางเส้นหายใจ ทำให้เกิดปัญหาทางระบบหายใจและสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย 3. เครียด ความเครียดเป็นสิ่งที่สามารถกระตุ้นให้เกิดปัญหาในระบบหัวใจได้ การเผชิญกับความเครียดอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบหัวใจ เช่น เพิ่มความดันเลือด และความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนทางระบบหัวใจ...

"ไข่ไก่" ต้าน 3 โรคร้าย คุณประโยชน์ดีๆ ที่คุณควรรู้ 1. โรคมะเร็ง ไข่ไก่เป็นอาหารที่รวมพลังงานและสารอาหารต่างๆ ที่สำคัญสำหรับร่างกายเรา นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้ด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ใหญ่ สารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเซลล์มะเร็งในร่างกายและป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งอีกด้วย นอกจากนี้ ไข่ไก่ยังมีสารอาหารเช่นวิตามินบี โอเมก้า-3 และโพแทสเซียมที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้อีกด้วย ดังนั้นการบริโภคไข่ไก่เป็นส่วนหนึ่งของระบบอาหารที่ดีเพื่อสุขภาพที่มีความสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ 2. โรคหัวใจขาดเลือด ไข่ไก่เป็นแหล่งที่มาของโปรตีนที่สูงและไขมันที่ดีต่อร่างกาย เป็นไขมันที่มีคุณค่าที่ดี เช่น ไขมันไม่อิ่มตัวและไขมันไม่อิ่มตัวที่เป็นฟอสโฟไลพรอท ไขมันที่อยู่ในไข่ไก่สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจขาดเลือดได้ โดยการเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวประกอบที่สำคัญสำหรับการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินบีคอมเพล็กซ์ที่ช่วยลดการอักเสบในระบบหลอดเลือด ทำให้ระบบหลอดเลือดดำเนินการได้อย่างราบรื่น และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจในระยะยาว 3....