เส้นทางอาชีพหลังเรียนโลจิสติกส์ โอกาสการหางานและแนวโน้มในอนาคต

โลจิสติกส์ เรียนจบแล้วทำงานอะไรได้บ้าง? หางานง่ายไหม?

การเรียนโลจิสติกส์ (Logistics) คือการศึกษากระบวนการในการวางแผน การจัดการ และการควบคุมการเคลื่อนย้ายสินค้าหรือบริการจากจุดเริ่มต้น (ต้นทาง) ไปยังจุดหมายปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่า ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการด้านคลังสินค้า การขนส่ง การกระจายสินค้า การจัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Management) และการควบคุมต้นทุนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

สาขาที่เกี่ยวข้องในโลจิสติกส์

1. การขนส่ง (Transportation)

  • การขนส่งสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น รถยนต์, รถไฟ, เรือ, และเครื่องบิน
  • เลือกใช้วิธีการขนส่งที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับระยะทาง เวลา และต้นทุน

2. การจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management)

  • การบริหารจัดการพื้นที่เก็บสินค้าเพื่อให้สามารถจัดเก็บและเคลื่อนย้ายสินค้ารวดเร็วและปลอดภัย
  • รวมถึงการใช้เทคโนโลยี เช่น ระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสต็อก

3. การจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management)

  • การบริหารและควบคุมกระบวนการทั้งหมดที่เชื่อมโยงกันจากการจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้า
  • เป็นการบริหารจัดการที่รวมถึงการผลิต การจัดซื้อ การขนส่ง และการกระจายสินค้า

4. การบริหารจัดการการขนส่งระหว่างประเทศ (International Logistics)

  • การจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เช่น การใช้บริการขนส่งทางเรือและทางอากาศ
  • การจัดการเรื่องเอกสารการส่งออกและการนำเข้า เช่น พิธีการศุลกากรและภาษี

5. การวางแผนการขนส่ง (Transport Planning)

  • การวางแผนเส้นทางการขนส่งสินค้าเพื่อลดต้นทุนและเวลาการขนส่ง
  • การเลือกใช้ยานพาหนะที่มีประสิทธิภาพ เช่น การใช้รถบรรทุกที่เหมาะสมกับประเภทของสินค้าที่ขนส่ง

6. การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management)

  • การบริหารสินค้าคงคลังให้เหมาะสม ไม่ให้มีสินค้าคงเหลือมากเกินไปหรือน้อยเกินไป
  • การใช้เทคโนโลยีเช่น การติดตามสินค้าแบบ Real-time เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการจัดการ

7. การตรวจสอบและติดตาม (Tracking & Monitoring)

  • การใช้เทคโนโลยีเช่น GPS หรือ RFID เพื่อทำการติดตามสินค้าหรือพัสดุที่อยู่ระหว่างการขนส่ง
  • เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะถึงมือผู้รับในสภาพที่ดีและตรงเวลา

8. การจัดการคุณภาพและความเสี่ยง (Quality & Risk Management)

  • การควบคุมคุณภาพของการบริการขนส่งและการรับประกันความปลอดภัยของสินค้า
  • การประเมินและจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการขนส่ง เช่น ความเสี่ยงจากอุบัติเหตุหรือความเสียหายของสินค้า

9. การจัดการข้อมูล (Information Management)

  • การใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการขนส่ง การจัดเก็บ และการกระจายสินค้า
  • การใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

10. การบริการลูกค้า (Customer Service)

  • การให้บริการลูกค้าเกี่ยวกับสถานะของสินค้าที่กำลังขนส่ง หรือการตอบคำถามเกี่ยวกับการขนส่ง
  • การติดตามการขนส่งเพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจนและทันสมัยแก่ลูกค้า

โลจิสติกส์เป็นสาขาที่เชื่อมโยงกับหลายภาคส่วน ทั้งในด้านการขนส่ง การจัดเก็บ การบริหารจัดการ และการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

งานที่สามารถทำได้หลังเรียนโลจิสติกส์

  1. ผู้จัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Manager)
    รับผิดชอบในการจัดการทั้งหมดในกระบวนการซัพพลายเชน ตั้งแต่การจัดหาสินค้าจากผู้ผลิตไปจนถึงการส่งมอบให้ลูกค้า
  2. ผู้จัดการคลังสินค้า (Warehouse Manager)
    รับผิดชอบในการบริหารคลังสินค้าและการจัดการสต็อก รวมถึงการควบคุมกระบวนการจัดเก็บและขนส่งสินค้า
  3. ผู้จัดการการขนส่ง (Transport Manager)
    ดูแลและจัดการการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบให้การขนส่งเป็นไปตามแผน
  4. ผู้ประสานงานโลจิสติกส์ (Logistics Coordinator)
    ประสานงานระหว่างส่วนต่างๆ ของกระบวนการโลจิสติกส์ เช่น การติดต่อกับผู้จัดส่งสินค้าและการจัดการเอกสารต่างๆ
  5. นักวิเคราะห์ข้อมูลโลจิสติกส์ (Logistics Analyst)
    วิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการขนส่งและซัพพลายเชน เพื่อพัฒนากระบวนการและลดต้นทุน
  6. ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการสต็อก (Inventory Specialist)
    ดูแลและควบคุมการจัดการสินค้าคงคลังภายในองค์กร เพื่อให้มีความพร้อมในการจัดส่งและจำหน่ายสินค้า
  7. ที่ปรึกษาด้านโลจิสติกส์ (Logistics Consultant)
    ให้คำปรึกษาแก่บริษัทต่างๆ เกี่ยวกับการปรับปรุงกระบวนการโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน

โอกาสหางานในสายโลจิสติกส์

สายงานโลจิสติกส์มีโอกาสในการหางานที่ดีในหลายสาขา เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ ทำให้ธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องการการบริหารจัดการการขนส่งและคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ระบบการจัดการคลังสินค้าด้วยอัตโนมัติ (Warehouse Automation), ระบบการติดตามสินค้าผ่าน GPS, การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และ AI ในการคำนวณเส้นทางการขนส่ง ก็ทำให้สายงานโลจิสติกส์มีการเปลี่ยนแปลงและมีความต้องการบุคลากรที่มีทักษะทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น

โอกาสในสายโลจิสติกส์:

  1. การขยายตัวของอีคอมเมิร์ซ: การเติบโตของธุรกิจออนไลน์ทำให้ความต้องการการขนส่งและจัดการคลังสินค้าสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการจัดการการส่งสินค้าให้เร็วและมีประสิทธิภาพ
  2. การพัฒนาเทคโนโลยีในโลจิสติกส์: การใช้ระบบอัตโนมัติในการจัดการคลังสินค้า การใช้โดรนและยานพาหนะไร้คนขับ (Autonomous Vehicles) ในการขนส่ง รวมถึงการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น จึงมีความต้องการบุคลากรที่มีทักษะทางเทคโนโลยีเข้ามาในสายงานนี้
  3. การขยายตลาดในอาเซียน: อาเซียนเป็นตลาดที่สำคัญในการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งสินค้าผ่านทางทะเลและทางอากาศ ซึ่งทำให้โลจิสติกส์เป็นสาขาที่มีความต้องการสูงในประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
  4. ความต้องการด้านการจัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Management): การจัดการซัพพลายเชนที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน จึงมีการขยายตัวของตำแหน่งงานในด้านนี้อย่างต่อเนื่อง
  5. การเติบโตของธุรกิจขนส่งทางเทคโนโลยีและการตลาดดิจิทัล: โลจิสติกส์ไม่ใช่แค่การขนส่งสินค้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูล การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานในทุกขั้นตอน

สาขาที่มีโอกาสในสายโลจิสติกส์:

  • ผู้จัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Manager): รับผิดชอบในการบริหารจัดการทั้งห่วงโซ่อุปทาน
  • ผู้จัดการคลังสินค้า (Warehouse Manager): ดูแลการจัดการคลังสินค้าและการขนส่งสินค้าภายใน
  • นักวิเคราะห์ข้อมูลโลจิสติกส์ (Logistics Data Analyst): ใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์และวางแผนการขนส่ง
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่ง (Transport Specialist): เชี่ยวชาญการบริหารจัดการการขนส่งทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ
  • นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist): ใช้ข้อมูลในการพัฒนาระบบซัพพลายเชนและโลจิสติกส์

การฝึกทักษะที่สำคัญในสายงานนี้ ได้แก่ การเข้าใจเรื่องการขนส่ง การใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ทางโลจิสติกส์ และการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง

หางานในสายโลจิสติกส์ง่ายหรือไม่?

การหางานในสายโลจิสติกส์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ทักษะที่คุณมี ความต้องการของตลาดในแต่ละช่วงเวลา และประสบการณ์การทำงานของคุณ แต่โดยทั่วไปแล้ว โลจิสติกส์เป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคที่การค้าขายออนไลน์และการขนส่งสินค้ามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน

ปัจจัยที่ทำให้การหางานในสายโลจิสติกส์ง่ายหรือยาก:

  1. ทักษะที่เกี่ยวข้อง

    • ถ้าคุณมีทักษะเฉพาะ เช่น การบริหารจัดการคลังสินค้า การขนส่งระหว่างประเทศ หรือการใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดการโลจิสติกส์ เช่น ซอฟต์แวร์ ERP หรือ WMS (Warehouse Management System) คุณจะมีโอกาสหางานได้ง่ายขึ้น
    • ทักษะการสื่อสารและการทำงานร่วมกับทีม รวมถึงการแก้ปัญหาด่วนก็เป็นสิ่งที่สำคัญในสายงานนี้
  2. การเติบโตของอุตสาหกรรม

    • อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในภาคการขนส่งและการจัดเก็บสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การขนส่งสินค้าออนไลน์ ซึ่งเพิ่มความต้องการแรงงานในหลายตำแหน่ง
    • ในประเทศไทย การเติบโตของตลาด E-commerce ทำให้มีความต้องการผู้เชี่ยวชาญในด้านโลจิสติกส์มากขึ้น
  3. ประเภทงานในสายโลจิสติกส์

    • การขนส่ง: เช่น งานขับรถขนส่ง งานควบคุมการขนส่ง เป็นต้น
    • คลังสินค้าและการจัดการสินค้าคงคลัง: ต้องมีความรู้เรื่องการจัดการคลังสินค้าและซอฟต์แวร์
    • การจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management): รวมถึงการจัดการการขนส่งและการจัดการสต็อกสินค้า
  4. การศึกษาและประสบการณ์

    • ถ้าคุณมีปริญญาหรือการฝึกอบรมเฉพาะทางในด้านโลจิสติกส์หรือการจัดการห่วงโซ่อุปทาน คุณจะมีโอกาสหางานได้ดีกว่า
    • การเริ่มต้นจากตำแหน่งที่ต่ำลงไป เช่น ผู้ช่วยหรือเจ้าหน้าที่ในคลังสินค้า ก็เป็นช่องทางที่ดีในการเริ่มต้น

ท้าทายที่อาจพบ

  • การแข่งขันในตลาดงาน: ด้วยการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อาจทำให้การแข่งขันในบางตำแหน่งที่ต้องการทักษะเฉพาะเพิ่มขึ้น
  • ความยืดหยุ่นของงาน: งานในสายโลจิสติกส์บางประเภทอาจต้องทำในเวลานอกเวลาทำการหรือมีการเดินทางบ่อย
  • การพัฒนาเทคโนโลยี: การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อาจเป็นอุปสรรคสำหรับบางคนที่ไม่คุ้นเคยกับเครื่องมือหรือซอฟต์แวร์ที่จำเป็น

โดยรวมแล้ว การหางานในสายโลจิสติกส์ไม่ยากนักถ้าคุณมีทักษะที่เหมาะสมและเข้าใจถึงความต้องการของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน สายโลจิสติกส์มีโอกาสมาก แต่ก็ต้องพิจารณาถึงทักษะ ประสบการณ์ สถานที่ และสภาพเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง