7 อาหารที่ควรหยุดทาน ถ้าอยากหายปวดหัวไมเกรน

7 อาหารที่ควรหยุดทาน ถ้าอยากหายปวดหัวไมเกรน

ไมเกรนเป็นอาการที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายและมีอาการปวดหัวรุนแรง มันอาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุเช่นความเครียด สภาวะเม็ดเลือดสมองขยาย หรือแม้กระทั่งอาการแพ้อาหารบางชนิด ในบทความนี้เราจะพูดถึง 7 ชนิดของอาหารที่ควรหยุดทานเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปวดหัวไมเกรน

เนื้อแปรรูป ประเภทแรกของอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

การบริโภคเนื้อแปรรูปหรืออาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมากมาย เช่น เนื้อสุกรหมูสไลด์ หรือเนื้อบด เป็นต้น อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไมเกรนได้ เนื้อแปรรูปมักจะมีส่วนประกอบต่างๆ ที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัว อย่างเช่น ไทรมีน และนิวรอทินที่อาจทำให้เกิดปวดหัวแม้กระทั่งไม่ได้รับปริมาณมาก

แอลกอฮอล์ ผลกระทบที่ไม่ควรมองข้าม

การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปวดหัวไมเกรน แอลกอฮอล์สามารถทำให้ระบบประสาทส่วนกลางของสมองถูกกระตุ้นให้เกิดปวดหัว นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังสามารถทำให้ร่างกายขาดน้ำและเสื่อมสภาพทางเลือกอย่างมาก ดังนั้นการลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไมเกรน

คาเฟอีน สารกระตุ้นที่ควรจำกัด

คาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นที่พบในกาแฟ ชา และเครื่องดื่มรายละเอียดอื่นๆ การบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการไมเกรนได้ เนื่องจากคาเฟอีนสามารถกระตุ้นให้หลั่งสารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดหัว การจำกัดปริมาณคาเฟอีนในอาหารและเครื่องดื่มอาจช่วยลดความเสี่ยงนี้

ชีสที่บ่มหมักเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้ความหวานหลอดเลือด

ชีสที่ผ่านกระบวนการบ่มหมักเป็นเวลานาน อาจมีปริมาณแร่ธาตุที่สูงอยู่ ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน นอกจากนี้ ชีสยังเป็นอาหารที่มีไทรมีนซึ่งเป็นสารที่อาจทำให้เกิดอาการปวดหัว ดังนั้นควรคำนึงถึงปริมาณแร่ธาตุและสารอาหารที่อาจกระตุ้นให้เกิดไมเกรนก่อนที่จะบริโภคชีส

ผงชูรส ความหวานที่มากเกินไป

ผงชูรสเป็นสารที่ใช้เพิ่มรสชาติหวานให้กับอาหารและเครื่องดื่ม การบริโภคผงชูรสมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ได้สัมพันธ์กับความหวานในระดับปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้ หากคุณมักใส่ผงชูรสในอาหารหรือเครื่องดื่ม ควรพยายามลดปริมาณหรือเลือกใช้ทางเลือกที่ไม่มีผงชูรสเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดไมเกรน

ผลไม้รสเปรี้ยว ความเสี่ยงที่ควรคำนึงถึง

ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน ความเป็นกรดในผลไม้รสเปรี้ยวอาจกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของหลอดเลือดในสมอง ที่สามารถเป็นสาเหตุของอาการปวดหัว คุณไม่จำเป็นต้องหยุดบริโภคผลไม้รสเปรี้ยวทั้งหมด แต่ควรคำนึงถึงปริมาณและความถี่ในการบริโภคเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดไมเกรน

น้ำตาลเทียม หรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาล การเลือกทางเลือกที่ดี

น้ำตาลเทียมหรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลเป็นทางเลือกที่หลายคนเลือกใช้เพื่อลดปริมาณน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่ม การบริโภคน้ำตาลเทียมมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการไมเกรนได้ อย่างไรก็ตาม น้ำตาลเทียมยังเป็นทางเลือกที่ดีเมื่อต้องการลดน้ำตาล ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและไม่เกินเกณฑ์ที่แนะนำ

สรุป

การรักษาความเสี่ยงในการเกิดปวดหัวไมเกรนไม่ใช่เรื่องยาก ด้วยการปรับปริมาณและลักษณะการบริโภคอาหารที่เหมาะสม คุณสามารถลดความเสี่ยงได้มาก อย่าลืมตรวจสอบส่วนประกอบของอาหารและเครื่องดื่มที่คุณบริโภค เพื่อให้การรับประทานอาหารเป็นประสบการณ์ที่สุขสม และปราศจากอาการปวดหัวไมเกรน

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. การลดปริมาณอาหารเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไมเกรนได้จริงหรือไม่?

ใช่, การลดปริมาณและการบริโภคอาหารเหล่านี้อย่างความเหมาะสมสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้จริง

2. อาหารที่มีรสหวานทำไมถึงเกี่ยวข้องกับไมเกรน?

รสหวานอาจกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของหลอดเลือดในสมอง ที่อาจเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวไมเกรน

3. ผลไม้รสเปรี้ยวที่น่ารับประทานคืออะไร?

ผลไม้รสเปรี้ยวที่น่ารับประทานรวมถึงส้ม มะนาว และสตรอเบอร์รี่ เป็นต้น

4. น้ำตาลเทียมคืออะไร?

น้ำตาลเทียมเป็นสารให้ความหวานที่ใช้แทนน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่ม

5. การลดปริมาณแอลกอฮอล์สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไมเกรนได้อย่างไร?

การลดปริมาณแอลกอฮอล์สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไมเกรนได้โดยลดโอกาสที่ระบบประสาทส่วนกลางของสมองถูกกระตุ้นให้เกิดปวดหัว